เกมออนไลน์บางเกมกว่าจะประสบความสำเร็จอาจต้องใช้เวลานานหลายปี แต่สำหรับเกม Fortnite ใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนก็สามารถครองใจเกมเมอร์ทั่วโลกได้อย่างรวดเร็วอีกทั้งกลายเป็นข่าวกระแสหลักบนหน้าสื่อต่างๆ มากมาย ความสำเร็จของเกม Fortnite เกิดขึ้นหลังประกาศเปิดโหมด Battle Royale ที่ได้แรงบันดาลใจจากเกม PUBG กลายเป็นโหมดเกมยอดนิยมจนผู้เล่นหลายคนลืมพื้นฐานเดิมของระบบเกมหลัก Save the World อาจมองได้ว่าไม่ประสบความสำเร็จเมื่อเทียบกับโหมด Battle Royale ซึ่งในปี 2018 กลับกลายเป็นผู้นำเกือบทุกด้าน แม้แต่เกม PUBG ยังต้องหลีกทางให้ โดยเฉพาะกระแสสำคัญที่ผลักดันให้เกม Fortnite ได้รับความสนใจจนมีฐานสมาชิกมากกว่า 40 ล้านคนทั่วโลก
Drake และ Ninja ไลฟ์สดเล่นเกม Fortnite
จุดเริ่มต้นที่ทำให้เกมเมอร์พูดถึงเกม Fortnite Battle Royale กันมากขึ้น เมื่อแร็ปเปอร์ชื่อดัง Drake บางคนอาจรู้จักจากผลงานเพลง Hotline Bling ได้ไลฟ์สตรีมร่วมกับ Ninja สตรีมเมอร์ชื่อดังจนทำลายสถิติยอดคนดูบน Twitch สูงถึง 635,000 คนในเวลาเดียวกัน และยังทำให้มีผู้ชมกด Subscribe ชาเนลของ Ninja ในระหว่างที่กำลังสตรีมเกือบ 90,000 Subs! สร้างรายได้กว่า $200,000 ดอลลาร์ กลายเป็นกระแสดังไปทั่วโลกจนออกสื่อ CNBC
Youtuber รวมตัวไลฟ์สด คนดูทะลุล้าน
ปัจจุบันการไลฟ์สตรีมไม่ได้มีแค่ Twitch เพียงเจ้าเดียว บริการบน Youtube ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน การไลฟ์สตรีมของ Ninja และ Drake ที่มียอดคนดูมากกว่า 6 แสนคนอาจดูน้อยลงเมื่อเทียบกับไลฟ์สดของ elrubiusOMG ร่วมกับเหล่าสตรีมเมอร์บน Youtube อีก 99 คน กว่าจะรวมตัวกันครบต้องใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง แต่ผลตอบแทนที่ได้นับว่าคุ้มค่าเพราะมีผู้ร่วมเข้าชมทะลุ 1 ล้านคนในเวลาเดียวกัน ทำให้กระแสเกม Fortnite ยิ่งร้อนแรงเข้าไปอีกระดับจนต้องหามาเล่นให้ได้
Fortnite ฮิตหนักถึงขั้นแอบเล่นในโรงเรียน
สำหรับเด็กยุค 90 ถ้าเป็นคนชอบเล่นเกมคงไม่พลาดที่จะแอบพา Game Boy ไปเล่นในโรงเรียน แต่ปัจจุบันความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีจึงถูกแทนที่ด้วยมือถือหรือสมาร์ทโฟนรองรับการเล่นเกมระดับ High-End หลังจากปล่อยเกม Fortnite Mobile ท่ามกลางกระแสเกมที่กำลังร้อนแรงจนขยายวงกว้างไปสู่ความวุ่ยวายในโรงเรียน และพบว่ามีเด็กหลายคนแอบเล่นเกม Fortnite ในขณะที่ครูกำลังสอน หรือคุยกันจนทำลายบรรยากาศในห้องเรียน ทำให้โรงเรียนบางแห่งตัดสินใจออกกฏสั่งห้ามและปิดกั้นการเข้าถึง Wifi ทันที
Epic Games ทุ่มเงินกว่า 3 พันล้านบาท
เมื่อประสบความสำเร็จในด้านฐานสมาชิกและรายได้ Epic Games ประกาศทุ่มเงินรางวัล $100 ล้านเหรียญฯ หรือราว 3 พันล้านบาท จัดการแข่งขันเกม Fortnite Battle Royale ประเดิมปีแรก สร้างแรงสะเทือนทั้งวงการ eSports โดยเม็ดเงินจะกระจายไปสู่ผู้เล่นหรือสตรีมเมอร์เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการแข่งขัน กลายเป็นแรงผลักดันให้แก่ผู้เล่นเกม Fortnite อย่างมีเป้าหมายที่กำลังรอโอกาสไขว่คว้าชัยชนะ Victory Royale และดึงความสนใจจากผู้เล่นหน้าใหม่รวมถึงผู้เล่นระดับมือโปรจากเกมอื่นๆ
นี้เป็นเพียงกระแสบางส่วนที่ทำให้เกม Fortnite Battle Royale ฮิตหนักจนขึ้นแท่นผู้นำเกมเกือบทุกด้าน แม้แต่ทีมพัฒนา PUBG Corp. ยังออกมายอมรับว่า PlayerUnknown’s Battlegrounds ทำได้ต่ำกว่ามาตราฐานที่คาดหวังไว้ทั้งๆที่ตนเองเป็นผู้นำเทิร์นแนวเกม Battle Royale ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการอัพเดทเนื้อหาของเกมไม่สม่ำเสมอ ในขณะที่ Epic Games มีการเพิ่มเนื้อหาใหม่รวมถึงกิจกรรมดึงดูดผู้เล่นอยู่เรื่อยๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เหล่าสตรีมเมอร์ชื่อดังบน Twitch หันมาให้ความสำคัญกับเกม Fortnite มากกว่า PUBG ในปี 2018
