หลังจากเกม Dota 2 ครองสถิติด้านจำนวนผู้เล่นเล่นมากที่สุดบนแพลตฟอร์ม Steam มาอย่างยาวนาน จนกระทั่งต้องเสียบัลลังก์ให้แก่เกม PlayerUnknown’s Battlegrounds ไปเมื่อกลางปี 2017 แต่คงเทียบกันไม่ได้เพราะแนวเกมแตกต่างกัน อย่างไรก็ตามจากการประเมินของ SuperData องค์กรวิเคราะห์ข้อมูลอุตสาหกรรมเกมได้ชี้ให้เห็นว่า ฐานผู้เล่นเกม Dota 2 หายไปกว่าครึ่งล้าน และกำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ได้ปล่อยแพทช์ใหม่รวมถึงเปิดตัวระบบจ่ายรายเดือน Dota Plus แนวโน้มอาจจะไม่ดีขึ้น
การติดตามข้อมูลจัดเก็บสถิติในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จำนวนผู้เล่นเกม Dota 2 มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงเกือบ 14 ล้านคน ในช่วงการอัพเดทแพทช์ 7.0 ราวปลายปี 2016 แต่พอเริ่มปี 2017 ยอดผู้เล่นกลับลดลงอย่างต่อเนื่องเหลือ 10.6 ล้านคน ถึงแม้ Valve จะไม่เปิดเผยตัวเลข Monthly Active Users อย่างเป็นทางการ แต่ทาง SuperData ได้อ้างอิงสถิติจากเว็บไซต์ Steam Charts แสดงตัวเลขจำนวนผู้เล่นออนไลน์พร้อมกันสูงสุด 1,291,328 คนในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2016 ลดลงเหลือ 733,214 คน คิดเป็น 43% ของฐานผู้เล่นที่หายไปจนถึงปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม SuperData ไม่ได้ชี้แจงสาเหตุว่าทำไมฐานผู้เล่นเกม Dota 2 ถึงลดลง แต่จากการคาดการณ์อาจเกิดจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมเกมเมื่อช่วงกลางปี 2017 จนเริ่มต้นปี 2018 ช่วงเวลาที่ผู้เล่นกำลังมองหาเกมใหม่ๆ จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งมาจากกระแสความนิยมของเกม PUBG และ Fortnite ความร้อนแรงของแนวเกม Battle Royale ทำให้เกมแนว MOBA ต้องหลีกทางไปก่อน ไม่ใช่แค่เกม Dota 2 เท่านั้น Smite และ Heroes of the Storm ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ส่วนเกม League of Legends ยังคงรักษาฐานคนเล่นไว้ได้อย่างเหนียวแน่น
ที่มา – https://goo.gl/hZrBJQ