หลังจากการตัดสินใจปิดให้บริการเกม Paragon ในเดือนเมษายนของปีนี้ ทางค่าย Epic Games มั่นใจว่าเรื่องดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อเกม Fortnite และเชื่อว่าแฟนๆ ยังคงให้การสนับสนุนต่อไป โดยทีมพัฒนาเกม Paragon เกือบทั้งหมดจะถูกโยกย้ายไปดูแลเกม Fortnite เพื่อรองรับการเติบโตของผู้เล่นที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาเนื้อหาใหม่ๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการอัพเดทแพทช์ต่างๆ ในอนาคตได้อย่างรวดเร็ว
ถ้าย้อนกลับไปในปีที่ผ่านมา Epic Games เคยพูดถึงอัตราการเติบโตของเกม Paragon อยู่ในระดับที่น่าพอใจ แต่ความสำเร็จของเกม Fortnite: Battle Royale เป็นสาเหตุที่ต้องกลับมาพิจารณาถึงอนาคตของเกม Paragon อีกครั้ง เพราะเห็นได้ชัดว่าผู้เล่นส่วนใหญ่ให้ความสนใจในแนวเกม Battle Royale มากกว่า MOBA ความพยายามในการผลักดันให้ตัวเกมขึ้นมาเทียบชั้นเกมแนว MOBA แถวหน้าจึงเป็นเรื่องยากมากในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตามปฏิเสธไม่ได้ว่าเกม Fortnite ประสบความสำเร็จเพราะโหมดฟรี Battle Royale ที่เกาะกระแสความนิยมของเกม PlayerUnknown’s Battlegrounds ทั้งที่ระบบพื้นฐานหลักของเกมไม่ใช่แนว Battle Royale แต่เป็นแบบ Action Survival สร้างฐานป้องกันปิศาจ เมื่อเทียบกับเกม ที่เกาะกระแสแนวเกม MOBA เช่นกัน แต่มาช้าเกินไปเพราะปัจจุบันเกมแนว MOBA แทบจะล้นตลาดแถมยังมีเกม LOL และ Dota2 ที่ทรงอิทธิพลอยากที่จะล้มได้
