เราตื่นเต้นอย่างยิ่งที่จะประกาศให้ทราบถึงอัปเดตจากการพัฒนาในไตมาสแรกปี 2022 ของ Diablo IV โดยจะมีฝ่ายต่าง ๆ มาเล่าให้ฟังถึงวิธีที่ทำให้พื้นที่ต่างๆ ใน Diablo IV มีความโดดเด่น และพวกเขามารวมตัวกันสร้างศิลปะให้สิ่งแวดล้อมในเกมมีความสมจริงได้อย่างไร ดูรายละเอียดทั้งหมดได้ >คลิก<
ภาคที่มืดมิดและสมเหตุสมผลที่สุดของซีรีส์ Diablo IV มุ่งสร้างความน่าเชื่อถือที่เหนือกว่าความสมจริงในสภาพแวดล้อมของตัวเกมเอง การจะทำเช่นนั้นได้ ทีมงานต้องสร้างเสาหลักสองต้นขึ้นมาเป็นรากฐานในการกลั่นกรองแนวคิด, สถานที่ และการทำให้เกิดเป็น “old masters” และ “a return to darkness” การใช้เสาหลักเหล่านี้ ทำให้การสร้างสิ่งแวดล้อมในเกมเกิดขึ้นได้ด้วยการควบคุมรายละเอียดและการใช้สีต่างๆ มาสร้างสไตล์ภาพอันโดดเด่น การให้แสงในอากาศและสิ่งต่างๆ ทางกายภาพก็มีบทบาทสำคัญเช่นกันในการสร้างโลกแสนอันตรายแห่ง Sanctuary และทำให้สัมผัสบรรยากาศภายในเกมได้มากขึ้น
และนี่เป็นครั้งแรกในซีรีส์ คือ Diablo IV มี open world ซึ่งมีพื้นที่ที่ยึดครองได้ 5 แห่งให้สำรวจ ตั้งแต่ Dry Steppes ไปยังชายฝั่ง Scosglen จนถึงสันเขาน้ำแข็ง แต่ละยุคสมัยล้วนถูกสรรค์สร้างอย่างใส่ใจขึ้นด้วยมือของทีมงานด้านศิลปะและการออกแบบของ Diablo ของประกอบฉากต่างๆ ที่มีไดนามิกทำให้พื้นที่เหล่านี้ส่วนใหญ่มอบชีวิตชีวาให้กับสถาปัตยกรรมและภูมิประเทศแบบต่างๆ ของประกอบฉากที่โต้ตอบได้และทำลายได้จะมีให้เห็นในสภาพแวดล้อมของเกมอยู่บ่อยครั้ง เพราะทีมงานได้พยายามสร้างการทำลายล้างที่หลากหลายและสมจริงขึ้นมา
Diablo IV มีดันเจียนต่างๆ มากกว่า 150 แห่งที่สร้างขึ้นด้วยการผสมผสานระหว่างมือเปล่าๆ กับการสร้างสรรค์เชิงกระบวนคำสั่ง การจะทำให้การสร้างดันเจียนต่างๆ มีประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นได้นั้น ทีมงานเริ่มต้นจากการสร้างไทล์เซ็ตหลายแบบที่จะถูกนำไปใช้และเอาไปจับคู่กับของประกอบฉากต่างๆ สิ่งที่ตอบโต้ได้ และการให้แสงอย่างชาญฉลาด และเพื่อให้ไทล์เซ็ตดูเป็นธรรมชาติ เลยสร้างฉากการเปลี่ยนไทล์เซ็ตขึ้นมาเป็นฟีเจอร์ใหม่ เพื่อไทล์เซ็ตสองชุดในดันเจียนเดียวกันเปลี่ยนแปลงไปมาหากันได้อย่างราบรื่น
หวังว่าคุณจะเพลิดเพลินกับอัปเดตแรกในปี 2022 ของการพัฒนา Diablo IV และเราตื่นเต้นมากที่ปีนี้จะมีอะไรให้อีกหลายอย่าง ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Website