Ujoy กำลังจะนำเกมส์อะนิเมะยอดฮิต “Merc Storia” เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษออกสู่ตลาดอาเซียน วันนี้ทางเราก็ได้รับเกียรติอย่างยิ่งที่มีโอกาสเชิญโปรดิวเซอร์ของเกมส์ซึ่งก็คือคุณ Matsumura มาให้สัมภาษณ์
Q : ช่วยเล่าประวัติการเกิดของเกมส์ “Merc Storia” หน่อยได้ไหมคะ
M : ในฐานะที่เป็นวิศวกรหลังเปิดระบบของ “Ensemble Girls” แล้ว ประมาณช่วงเม.ย. 2013 ผมได้รับคำสั่งแต่งตั้งให้เป็นโปรดิวเซอร์ ได้เข้าร่วมการวางแผนทั้งหมดของเกมส์ใหม่ นั่นก็คือเกมส์ “Merc Storia”
Q : “Merc Storia” เป็นเกมส์แรกที่คุณเป็นโปรดิวเซอร์ใช่ไหมคะ
M : ใช่ครับ
Q : งั้นอย่างนี้ “Merc Storia” ก็เป็นแผนที่เตรียมการมานานแล้วใช่ไหมคะ
M : ก็ถือว่าเตรียมมานานแล้วครับ แต่เนื่องจากผมเองก็ชอบเล่นเกมส์มาอยู่แล้ว และก็ได้เล่นเกมส์ทุกสไตล์มาก่อน แล้วผมก็ได้เอาส่วนที่น่าสนใจและส่วนประกอบที่คิดว่าเจ๋งๆ ที่สามารถเอามาแชร์กับเพื่อนๆ มารวมกัน จนกลายเป็นในรูปแบบของ “Merc Storia” พูดอย่างนี้น่าจะชัดเจนกว่าครับ
Q : เมื่อตอนเริ่มก็คิดแล้วใช่ไหมว่าจะทำเกมส์ระบบป้องกันแบบแนวนอน
M : ตอนแรกก็คิดไว้อยู่แล้วว่าจะทำเป็นระบบป้องกันแบบแนวนอน แต่เนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกที่ผมเป็นโปรดิวเซอร์ ก็ได้คิดว่าเกมส์รูปแบบอื่นก็น่าสนใจเช่นกัน ต่อมาก็เลยมีการสร้างชนิดอื่นๆ อย่างระบบไขปริศนา ระบบวิ่ง ระบบวางเป็นต้น แต่หลังจากลองเล่นแล้ว ถึงพบว่ายังไงระบบป้องกันแนวนอนที่คิดแต่แรกโดนใจผมมากที่สุด ก็เลยสรุปเลือกระบบนี้ และได้เริ่มลงมือคิดโครงสร้างด้านทัศนคติโลก
Q : ด้านการออกแบบมีอะไรที่แตกต่างจากเกมส์ระบบป้อนกันแนวนอนของอันอื่นไหมคะ
M : การวางแผนของ “Merc Storia” คือเริ่มตอนที่หลังเกมส์ระบบป้อนกันแนวนอนยอดฮิตอย่าง “Battle cats” ที่ได้เปิดตัวมาแล้วครึ่งปี เราถึงจะเริ่ม แต่คำนึงถึงตอนออกจำหน่ายก็อาจจะยังมีเกมส์ระบบป้อนกันแนวนอนอื่นๆ เปิดตัวเช่นกัน อย่าง “ชิงตัดหน้าคู่แข่งขัน” ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยอยู่แล้วด้วย อย่างฟังก์ชั่นแชท feverแบบสุ่ม การช่วยเหลือ ระบบกลับคืน เป็นต้น ล้วนเป็นสิ่งที่คิดอยู่ตลอดว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจไหมก่อนออกจำหน่าย จนต่อมาก็ได้เพิ่มทีละอย่าง ซึ่งนี่พูดได้ว่าเป็นการออกแบบที่แตกต่างคร่าวๆ
Q : เมื่อเทียบกับเกมส์แนวเดียวกันอันอื่นๆ แล้ว จำนวนตัวละครในเกมส์ถือว่าค่อนข้างเยอะมาก ในส่วนนี้ก็เป็นสิ่งที่คำนวณไว้แล้วใช่ไหมคะ
M : ใช่ครับ ด้านหนึ่งเพื่อให้ผู้เล่นสามารถจับได้ตัวละครที่มีเสน่ห์มาเป็นจุดขาย แต่อีกด้านหนึ่งก็ถูกจำกัดด้วยตัวละครมากเกินจะยากที่จะสร้างสรรค์เนื้อหาของเกมส์ แต่หลังจากที่ได้รับการร่วมแรงร่วมใจของทุกฝ่าย จนในที่สุดก็ได้สร้างตัวละคร 10 ตัวที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกัน นี่ก็เป็นจุดที่แสดงถึงความสามารถของหน่วยเราเช่นกัน
Q : ทัศนคติโลกของ “Merc Storia” เป็นความคิดของคุณเพียงผู้เดียวไหมคะ
M : ที่จริงหลังการวางแผน “Merc Storia” 2 เดือน ทีมงานก็ยังคงไม่เป็นรูปเป็นร่าง ฝ่ายการวางแผนจึงมีแค่เราเพียงผู้เดียว แต่เนื่องจากผมเคยทำด้านการผลิตมาก่อน ผมจึงทำการผลิตและออกแบบได้ ตอนนั้นก็มีแค่ผมที่ผลิตเกมส์นี้ ซึ่งในช่วงนั้นก็ได้ขอความคิดเห็นจากทีมงาน “Ensemble Girls” ต่อมาก็มีนักออกแบบคนหนึ่งได้เสนอว่าทันศนคติโลกของ “Merc Storia” จะต้องมี “บรรยากาศแบบพื้นบ้าน” ผมเองว่ามันก็ใช่ สุดท้ายก็เลยกลายเป็นทัศนคติโลกแบบ “Merc Storia”
Q : อาชีพ ”ฮีลเลอร์” ของตัวละครหลัก ก็เกิดขึ้นเพราะ “แบบพื้นบ้าน” หรือเปล่าคะ
M : ใช่ครับ ตอนนั้นมอนส์ได้ตั้งค่าแบบนั้น เราก็ใส่แบบ “พื้นบ้าน” เข้าไป จึงเกิดอาชีพ ”ฮีลเลอร์” ที่รักษามอนส์ หลังจากนั้น เพื่อที่จะสร้างโลกที่มนุษย์กับมอนส์อยู่ร่วมกันโดยที่มอนส์ไม่ใช่ทาสนั้น จึงได้สร้างริงโทน (tinkle seed) การตั้งค่าเหล่านี้เป็นต้น เพื่อช่วยมอนส์ที่ขอรักษาแล้ว และที่แน่นอน แบบ ”พื้นบ้าน” ก็ยังคงเป็นสไตล์ของ “Merc Storia” และได้ส่งผลกระทบต่อทัศนคติโลก บอกได้ว่าเป็นคีย์เวิร์ดเลยก็ได้ครับ
Q : จะให้มอนส์กลายเป็นเพื่อน งั้นต่อสู้ทำไมไม่ใช่ “การตี” แต่เป็นการ “รักษา” มอนส์ล่ะ
M : ถ้าตีมอนส์ถึงกลายเป็นเพื่อน ไม่ว่ายังไงก็จะมีการเกิดความสัมพันธ์สูงต่ำ ในโลก “Merc Storia”ใช้หลัก “มนุษย์กับมอนส์เดิมเป็นสิ่งที่เสมอภาคกันอยู่แล้ว” ถ้าให้ตัวละครหลักรักษามอนส์ ก็จะทำให้เกิดสภาพใช้ชีวิตร่วมกัน อาจจะมีหลายคนพูดว่า “แต่มันก็คือตีมอนส์เห็นๆ นะ(ยิ้มๆ)” นั่นก็แค่ต้องการตัดกำลังของมอนส์ ก่อนที่จะรักษาได้ก็ต้องตัดกำลังมอนส์ก่อน
Q : อย่างนี้นี่เอง (ยิ้มๆ) และชนิดตัวละครก็เป็นการตัดสินใจของคุณเพียงผู้เดียวไหมคะ
M : ไม่ใช่ครับ แต่เป็นการร่วมกับคุณ Suzuki ผู้กำกับด้านศิลปะและบทมาร่วมตัดสินด้วยกัน ตอนที่คุยว่า “ตัวละครจะเป็นแบบออยเลอร์ หรือว่าเป็นแบบบ้านๆ” นั้น ก็ได้พูดถึงตัวละครแบบออยเลอร์ที่รักษามอนส์ สุดท้ายก็ได้ตัดสินตัวละครที่ดูเบาะบางในบรรยากาศที่อบอุ่น
Q : อยากทราบว่า คุณชอบตัวละครตัวไหนคะ
M : โยฟาซีครับ วาดได้ไม่เลว และเป็นตัวละครหลักของผมในตอนนี้ ก็เลยค่อนข้างชอบ อีกหนึ่ง พยาบาลก็เป็น 5 ดาวที่ผมไม่ค่อยมี ดังนั้นก็ชอบเช่นกัน
Q : เกี่ยวกับคุณ Suzuki ที่รับเป็นผู้กำกับด้านศิปะครั้งแรกในงานนี้ ช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่าที่เลือกเขามาเป็นตำแหน่งที่ขาดไม่ได้นี้เพราะอะไร
M: คุณ Suzuki ที่มีประสบการณ์จากงาน “Eternal Chronicles”และ “Ensemble Girls” เป็นต้น ตอนแสดงตัวละครและพื้นหลังได้แสดงถึงทัศนคติโลกออกมาอย่างถนัด และเขาได้ใส่ใจกับทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าตัวละคร ฉากพื้นหลัง แม้สิ่งประดับเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม และเขาได้เข้าใจ “ระบบทัศนคติโลก” ของเกมส์นี้ได้อย่างดี ตอนคุยกับนักออกแบบทัศนคติโลกนั้น เขาก็ได้บอกว่า คนที่สามารถบรรยายถึงทัศนคติโลกของ “Merc Storia” คงมีนางเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดแล้ว
Q : แต่ตัวคุณ Suzuki ได้บอกว่า ”เป็นเพราะคนไม่พอ (ยิ้มๆ)” นะ
M:ไม่ใช่ครับ พวกเราเคยบอกกับผู้บริหารและฝ่ายบุคคลว่า “ไม่มีคนนั้นไม่ได้”! เพราะอยู่นี่ถึงพูดได้ หากไม่มีเขามาร่วมทีมเรา งั้นแผน “Merc Storia” อาจจะมีการเสี่ยงที่จะไม่รอด ตัวผมเองก็เป็นโปรดิวเซอร์ครั้งแรก “ไม่ว่ายังไงก็หวังว่าจะสำเร็จ” ผมได้บอกกับหัวหน้าของเขาเพื่อให้จ้างเขา
Q : การที่ให้ความสำคัญกับคุณ Suzuki ขนาดนี้ เขาได้ยกเงื่อนไขเรียกร้องอะไรไหมคะ
M: ก็ไม่มีเงื่อนไขอะไรพิเศษ ผมเองแค่ต้องการแบบพื้นบ้าน บรรยากาศที่อบอุ่นก็พอแล้ว ส่วนที่เหลือก็ยกให้เขาตัดสินหมดทุกอย่าง กับนักวาดอื่นๆ ผมก็พูดอย่างนี้ เนื่องจากผมคิดว่านักวาดอาจมีความรู้สึกที่ว่า “อันนี้ไม่เลว” ผลงานถึงจะออกมาดีที่สุด ดังนั้นก็ไม่มีอะไรพิเศษ แต่จากจิตวิทยา “ตัวละครที่ใส่แว่นก็น่าจะเป็นแบบนี้” ก่อนหน้านี้ที่พบคนต่าง ในหัวก็จะมีแบบที่สร้างไว้แล้ว ผมหวังว่าจะได้กระตุ้นสิ่งเหล่านี้ หวังว่าจะได้ให้ความสำคัญอีกครั้งเกี่ยวกับ “สิ่งที่ตกลงไว้” ระหว่างโลกจิตนาการและเกมส์ ดังนั้น ผมคิดว่าการที่เห็นภาพแล้วรู้ถึงนิสัยของตัวละครเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
Q : ต่อไปจะมีการเพิ่มสไตล์ของตัวละครไหม
M:ดูจากโดยรวมของเกมส์แล้วอยากเพิ่มตัวละครคุณลุง ถึงแม้พวกเราจะเป็นผู้สร้าง แต่ก็ไม่ได้สร้างตามคำแนะนำของกลุ่มคน (ยิ้มๆ) ถึงแม้ตัวละครนี้อาจไม่ได้เป็นที่นิยม แต่หากในเกมส์มีตัวละครนี้ ในโลกของ“Merc Storia” ก็จะได้ขยายเพิ่มใหญ่ขึ้น ดังนั้นเราก็จะยังสร้างตัวละครคุณลุงขึ้น
Q : สุดท้ายมีอะไรจะฝากให้กับผู้เล่นในแถบอาเซียนไหมคะ
M:ตั้งแต่ที่ “Merc Storia” ได้ออกสู่ตลาดญี่ปุ่นและไต้หวัน ก็ได้ถูกประเมินว่าเป็นเกมส์ที่ให้ความสำคัญกับทัศนคติโลก ผมคิดว่า “ไม่เปลี่ยนแปลงทัศนคติโลกที่ดี” “ไม่วาดแบบลางๆ” ถือเป็นสาเหตุสำคัญทีเดียว เพื่อไม่ทำให้ผู้เล่นผิดหวัง ต่อไปเราก็จะยังคงให้สำคัญด้านทัศนคติโลกต่อ ซึ่งตอนนี้กำลังจะมีเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษแล้ว จะได้ทำให้ผู้เล่นแถมอาเซียนได้สัมผัสกับทัศนคติโลกของเกมส์นี้ และพวกเราจะพยายามอุทิศความรักทั้งหมดของพวกเราต่อ เพื่อให้เกมส์ได้ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ หวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทุกคนครับ! แฟนเพจ “Merc Storia” : https://www.facebook.com/ujoyms