ปัจจุบันเกมแนว MOBA มักถูกมองว่าอาจจะถึงจุดอิ่มตัวของมันแล้วเพราะการมาของแนวเกม Battle Royale ที่ทำให้เกมอย่าง PUBG ครองบัลลังก์เกมยอดนิยมบน Steam นานกว่าหนึ่งปี แต่เริ่มปี 2019 ดูท่าจะไม่ง่ายเหมือนปีก่อนเพราะเจ้าของเดิมอย่างเกม Dota 2 จะกลับมาทวงบัลลังก์คืน ไม่ใช่แค่การอัปเดตเนื้อหาใหม่ที่หลายคนรอคอย แต่ส่วนเสริม Custom Games ผลักดันฐานผู้เล่นเพิ่มขึ้นอย่างมาก
โหมด Custom Games ของเกม Dota 2 มีให้เลือกเล่นหลากหลายรูปแบบตามแนวคิดของผู้สร้าง Mod แต่ ณ เวลานี้โหมดที่กำลังมาแรงจนสร้างประวัติศาสตร์ไม่มีโหมดเกมไหนเคยทำได้มาก่อนต้องยกนิ้วให้ Dota Auto Chess โหมดเกมดังกล่าวมีส่วนสำคัญทำให้ฐานคนเล่นเพิ่มขึ้นหลายแสนคน จากสถิติ 30 วันล่าสุดของเกม Dota 2 มีผู้เล่นออนไลน์พร้อมกันสูงสุดเตะ 900,000 คน
หากย้อนกลับไปดูสถิติช่วงครึ่งปีหลัง 2017 ยอดผู้เล่นเกม Dota 2 พร้อมกันสูงสุด (peak current player count) ลดลงเหลือราว 700,000 คน ถัดมาในปี 2018 ตลอดทั้งปียอดผู้เล่นยังคงเท่าเดิมเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยที่ 800,000 คน แต่พอเริ่มต้นปี 2019 เมื่อดูกราฟฟิกเปรียบเทียบกับ PlayerUnknown’s Battlegrounds ยอดคนเล่นเกม Dota 2 กราฟสถิติพุ่งสูงแซงหน้าเกม PUBG ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามแม้โหมด Dota Auto Chess จะส่งผลดีต่อเกม Dota 2 แต่ผู้เล่นจำนวนมากเริ่มมีความเห็นที่แตกต่าง ฝั่งหนึ่งแนะนำให้ Valve คว้าโอกาสนี้ไว้ผลักดันมันก่อนจะมีคนชิงไป ส่วนอีกฝั่งมองว่าโหมดดังกล่าวแย่งฐานคนเล่นเกมหลัก (main) ทำให้การค้นหาแมทช์นานขึ้น แต่หากมองภาพรวมอนาคตของเกม Dota 2 ยังคงสดใสบนแพลตฟอร์ม Steam ที่สามารถรักษาฐานคนเล่นไว้อย่างแข็งแกร่ง