แม้จะเปิดให้บริการมานานเกือบ 7 ปี เกม Counter Strike Global Offensive ยังคงรักษาฐานผู้เล่นไว้อย่างเหนียวแน่น ถือเป็นต้นแบบความสำเร็จของเกมแนว MMOFPS ที่ไม่มีใครไม่รู้จัก แต่กาลเวลาเปลี่ยนบางสิ่งก็ต้องมีการปรับตัวให้ดีขึ้นจากเกมที่ต้องซื้อก่อนเข้าเล่น Valve ตัดสินใจออกเวอร์ชั่น Free Edition เข้าถึงได้แบบทดลองเล่นก่อนตัดสินใจซื้อเกมเวอร์ชั่นเต็ม Full Edition จนสุดท้ายประกาศเปิดให้เล่นฟรี ซึ่งทุกอย่างเหมือนจะไปได้สวย แต่กลับสร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้เล่นจำนวนมาก
การเปิดให้เล่นฟรีทำให้เกิดปฏิกิริยาและการตอบโต้จากผู้เล่นเดิมหลากหลายรูปแบบอย่างเช่น “review bomb” กระหน่ำกดติดลบเกมให้ผลลัพธ์ออกมายํ่าแย่เพื่อเป็นการประท้วงมักพบเห็นได้บ่อยครั้งบนแพลตฟอร์ม Steam ซึ่งกรณีของเกม CS:GO ก็เช่นกันฝั่งผู้เล่นเก่าแสดงความไม่พอใจผ่านความคิดเห็นในเชิงลบ โดยประเด็นหลักแบ่งออกเป็น 2 เรื่องดังนี้
1.การเปลี่ยนแปลงโมเดลธุรกิจของเกมเป็นแบบ free-to-play ทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนโดนหักหลัง และต้องการเงินคืน
2.การเปิดให้เล่นฟรีจะนำมาซึ่งปัญหาเพิ่มขึ้นจากเหล่าแฮกเกอร์สร้างผลกระทบต่อสังคมภายในเกมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่หากเข้าใจเจตนาของ Valve การเปิดให้เล่นฟรีเพื่อต้องการดึงดูดผู้เล่นหน้าใหม่รวมถึงต้องการโปรโมทโหมดเกมใหม่อย่าง Danger Zone ที่มีแนวการเล่นแบบ Battle Royale ตามกระแส PUBG หรือ Fortnite และอย่างที่สาวกเกม CS:GO หลายคนคาดการณ์ไว้ โหมดดังกล่าวเปิดให้เล่นได้ไม่ถึงสัปดาห์ก็เจอแฮกเกอร์ใช้โปรแกรมช่วยเล่นเอาเปรียบผู้เล่นคนอื่นๆแบบไม่เกรกลัวความผิด
นอกจากนี้ตัวเลขด้านจำนวนผู้เล่นที่เพิ่มขึ้นยังสะท้อนปัญหาที่จะตามมาอีกมากมาย ถ้าติดตามสถิติบน Steam Charts หลังจาก Valve ประกาศเปิดให้เล่นฟรีทำให้ยอดผู้เล่นเพิ่มขึ้นมากกว่า 100,000 คนเมื่อเทียบกับเดือนก่อน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นผู้เล่นใหม่หรือเหล่าแฮกเกอร์ที่รอโอกาสนี้อยู่ แต่งานนี้ส่งผลกระทบต่อการแข่งขันภายในเกมอย่างแน่นอน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีผู้เล่นหลายคนบ่นถึงและแสดงความเป็นห่วงต่อเกมที่รัก!