ในปี 2025 ตลาด CPU สำหรับเล่นเกมยังคงแข่งขันกันอย่างดุเดือด ทั้งฝั่ง Intel และ AMD ต่างเปิดตัวชิปรุ่นใหม่ที่ให้ประสิทธิภาพสูง พร้อมฟีเจอร์ทันสมัยอย่าง PCIe 5.0, DDR5 และเทคโนโลยีด้านกราฟิกหรือแคชที่ช่วยให้เกมเมอร์เล่นได้ดีกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นสายฮาร์ดคอร์ที่ต้องการเฟรมเรตสูงสุด หรือผู้เล่นทั่วไปที่มองหาความคุ้มค่าแบบไม่ต้องใช้การ์ดจอแยก ก็มีตัวเลือกมากมายที่เหมาะกับงบประมาณและความต้องการของแต่ละคน
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ CPU สำหรับเล่นเกมที่ดีที่สุดในปี 2025 ตั้งแต่รุ่นท็อปแรงสุด ไปจนถึงตัวคุ้มราคาสำหรับสายประหยัด พร้อมข้อมูลเปรียบเทียบที่ช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า CPU รุ่นไหนเหมาะกับการประกอบเครื่องใหม่หรืออัปเกรดคอมของคุณ
การตัดสินใจในการซื้อ CPU
- การเลือก AMD หรือ Intel ไม่มีผิดหรือถูก : แต่ล่าสุดทาง AMD ขึ้นชื่อในเรื่องการผลิตและพัฒนา CPU มากกว่าสำหรับคอมพิวเตอร์พีซีระดับเมนสตรีม โดยเฉพาะสำหรับการเล่นเกม แต่ถึงอย่างนั้นทั้งสองค่ายต่างก็มีตัวเลือกที่น่าสนใจขึ้นอยู่กับความชอบในทุกช่วงราคา
- การเล่นเกม : ยิ่งซีพียูมีความเร็ว (clock speed) สูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีความเร็วในการเล่นเกมมากขึ้นเท่านั้นซึ่งมันส่งผลต่อค่า FPS ในขณะที่จำนวนคอร์ที่เยอะมากจะช่วยด้านประมวลผลหนักๆ ทำให้งานได้เร็วยิ่งขึ้น
- การวางแผนงบประมาณ : การเรื่องส่วนประกอบต่างๆ ให้เหมาะสมถือว่าสำคัญในการประกอบคอมพิวเตอร์สักหนึ่งเครื่อง ไม่ใช่ว่าจะต้องใช้ CPU แรงๆ และ RAM หรือ GPU ไม่แรงตามก็จะเกิดอาการคอขวดได้
- การโอเวอร์คล็อกไม่เหมาะสำหรับทุกคน : การโอเวอร์คล็อกเป็นหนึ่งในระบบที่ช่วยเพิ่มความเร็วประสิทธิภาพให้กับ CPU แต่ต้องแลกมากับการทำงานหนักมากขึ้นและก่อให้เกิดความร้อนสะสม ดังนั้นต้องมีการศึกษาและหาความรู้เพิ่มเติมถ้าคุณจะใช้ระบบนี้จริงๆ
CPU สำหรับเล่นเกมที่ดีที่สุด
AMD Ryzen 7 9800X3D

สถาปัตยกรรม: Zen 4 Socket: AM5 Cores/Threads: 8/16 Base Frequency: 4.7 GHz Top Boost Frequency: 5.2 GHz TDP: 120W
Ryzen 7 9800X3D เป็น CPU เกมมิ่งที่แรงที่สุดในตลาดตอนนี้ ทั้งเมื่อเทียบกับคู่แข่งจาก Intel ที่มีราคาสูงกว่า และซีรีส์อื่นๆ ของ AMD เอง และราคาอยู่ในช่วงที่สามารถจับต้องได้ ถือเป็น CPU ที่มอบทั้งประสิทธิภาพและความคุ้มค่าสำหรับเกมเมอร์ระดับไฮเอนด์ ชิปนี้สามารถเอาชนะ Core i9-14900K ของ Intel ได้ถึง 30% และเร็วกว่ารุ่นเรือธง Core Ultra 9 285K ถึง 35% พร้อมให้เฟรมเรตต่ำ เหมาะมากสำหรับการเล่นเกมแม้ว่าการ์ดจอของเราอาจจะไม่แรงก็ตาม
CPU มาพร้อม 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็วพื้นฐาน 4.7 GHz และบูสต์สูงสุด 5.2 GHz ใช้เทคโนโลยี 3D V-Cache แบบใหม่ของ AMD ซึ่งวางชิปแคช L3 96MB ไว้ใต้ die แทนการวางด้านบนแบบรุ่นก่อนหน้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการใช้พลังงาน ผลลัพธ์คือชิปที่ประหยัดไฟแต่ยังให้ประสิทธิภาพที่ดีทั้งด้านเกมและการใช้งานทั่วไปเมื่อเทียบกับชิป 8 คอร์รุ่นอื่น ๆ
แม้จะมีข้อดีหลายด้าน แต่ผู้ใช้ควรทราบว่าเทคโนโลยี 3D V-Cache นี้ไม่ได้รองรับทุกเกม ในการทดสอบส่วนใหญ่ก็เห็นผลชัดเจน Ryzen 7 9800X3D ยังมีข้อได้เปรียบเรื่องการใช้พลังงานไม่เยอะ ทำให้ระหว่างการใช้งานเงียบและไม่ร้อนจนเกินไป ทำให้ไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์ระบายความร้อนหรือพาวเวอร์ซัพพลายราคาสูง จึงเป็นตัวเลือกที่ให้ทั้งความแรงและความคุ้มค่า
เหตุผลที่ควรซื้อ
- CPU ที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกมตอนนี้
- ประสิทธิภาพโดยรวม
- การใช้พลังงานที่สมเหตุสมผล
- ความต้องการการระบายความร้อนที่เหมาะสม
- สามารถโอเวอร์คล็อกได้เต็มที่
เหตุผลเหตุผลที่ควรคิดก่อนซื้อ
- หาซื้อยาก
เว็บที่วางจำหน่าย : JIB , Banana , Advice
AMD Ryzen 5 9600X

สถาปัตยกรรม: Zen 5 Socket: AM5 Cores/Threads: 6/12 Base Frequency: 3.9 GHz Top Boost Frequency: 5.4 GHz TDP: 65W
Ryzen 5 9600X ช่วงเปิดตัวเคยมีปัญหาบางอย่าง แต่ด้วยการอัปเดตเฟิร์มแวร์และระบบปฏิบัติการจาก AMD ทำให้ประสิทธิภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ปัจจุบัน CPU ตัวนี้อยู่ในอันดับที่สูงขึ้นในตารางคะแนน CPU และด้วยราคาที่ถูกลงจากเดิม ทำให้ Ryzen 5 9600X เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในกลุ่มราคาต่ำกว่า 8,500 บาท สำหรับเกมเมอร์และผู้ใช้ทั่วไป
ชิปนี้มาพร้อม 6 คอร์ 12 เธรด บนสถาปัตยกรรม Zen 5 มีความเร็วพื้นฐาน 3.9 GHz และบูสต์สูงสุด 5.4 GHz กินไฟเพียง 65W โดยสามารถเลือกเปิดใช้งาน TDP 105W ใน BIOS เพื่อเร่งประสิทธิภาพการใช้งานแม้จะกินไฟมากขึ้น แต่ก็ยังถือว่าเป็นชิปที่ประหยัดพลังงานและระบายความร้อนได้ง่าย แต่รุ่นนี้ต้องซื้อระบบระบายความร้อนเองจะเป็นแบบเปิดหรือปิดก็ได้
Ryzen 5 9600X ใช้ซ็อกเก็ต AM5 ซึ่งรองรับเมนบอร์ดซีรีส์ B ทั้งหมด โดยเฉพาะรุ่นในตระกูล 600-series ที่มีให้เลือกมากมายในท้องตลาดตอนนี้ เมนบอร์ด B850 และ B840 ที่หลายคนรอคอยจะวางจำหน่ายจริงในช่วงต้นปีหน้า
เหตุผลที่ควรซื้อ
- ประสิทธิภาพการเล่นเกมดีเหมาะสมกับราคา
- กินไฟน้อย
- ความร้อนสะสมน้อย
- การทำงาน Sigle thread มีประสิทธิภาพที่สุ
- รองรับ AVX-512
เหตุผลเหตุผลที่ควรคิดก่อนซื้อ
- ไม่มีชุดคูลเลอร์แถมมา
เว็บที่วางจำหน่าย : JIB , Banana , Advice
AMD Ryzen 9 9950X3D

สถาปัตยกรรม: Zen 5 Socket: AM5 Cores/Threads: 16/32 Base Frequency: 4.3 GHz Top Boost Frequency: 5.7 GHz TDP: 170W
สำหรับ CPU Ryzen 9 9950X3D เป้าหมายในการออกแบบคือทำให้สุด และจากผลการทดสอบก็พิสูจน์ว่า AMD ทำได้จริง ด้วยเทคโนโลยี 3D V-Cache รุ่นใหม่ล่าสุด ทำให้ชิปนี้มอบประสิทธิภาพการเล่นเกมที่ดีที่สุดในตลาด ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ชิปในตระกูล X3D สามารถทำได้ดีในการใช้งานมี 16 คอร์ 32 เธรด และกลายเป็นตัวท็อปที่คู่แข่งต้องจับตามอง
จากผลทดสอบของเรา Ryzen 9 9950X3D เร็วกว่าชิปเรือธงของ Intel อย่าง Core Ultra 9 285K ถึง 37% ในการเล่นเกมที่ความละเอียด 1080p และยังเร็วกว่า Core i9-14900K ถึง 26% โดยเฉลี่ย อีกทั้งยังให้ประสิทธิภาพเทียบเท่า Ryzen 7 9800X3D ที่ถือว่าเป็น CPU สำหรับเล่นเกมที่ดีที่สุดในตลาดตอนนี้ ในด้านการใช้งานทั่วไป 9950X3D ยังเทียบเคียงกับ Ryzen 9 9950X รุ่นมาตรฐานได้ทั้งในงานแบบ single-threaded และ multi-threaded และยังเร็วกว่าคู่แข่ง Intel 11%
ชิปตัวนี้ทำงานบนสถาปัตยกรรม Zen 5 พร้อมแคชรวม 144MB และบูสต์สูงสุดถึง 5.7 GHz ใช้ซ็อกเก็ต AM5 เช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้า ไฮไลต์สำคัญคือการใช้เทคโนโลยี 3D V-Cache รุ่นที่สาม ซึ่ง AMD ย้ายชิปแคช L3 ขนาด 64MB จากด้านบนมาไว้ด้านล่างของชิปหลัก เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการระบายความร้อน ทำให้ 9950X3D มีค่า TDP สูงขึ้นเทียบเท่ารุ่นมาตรฐานต่างจากรุ่นก่อนที่ถูกจำกัดพลังงาน ส่งผลให้ประสิทธิภาพโดยรวมทะลุขีดจำกัด และกลายเป็นสุดยอด CPU สำหรับทั้งเกมเมอร์
เหตุผลที่ควรซื้อ
- CPU เร็วที่สุดในตลาดตอนนี้
- สามารถโอเวอร์คล็อกได้เต็มที่
- ประหยัดพลังงาน
- รองรับ AVX-512
เหตุผลเหตุผลที่ควรคิดก่อนซื้อ
- หาซื้อยาก
- ราคาสูง
เว็บที่วางจำหน่าย : JIB , Banana , Advice
Intel Core i5-12400F

สถาปัตยกรรม: Alder Lake Socket: LGA 1700 Cores/Threads: 6 (6P + 0E) / 12 Base Frequency: 2.5 GHz Top Boost Frequency: 4.4 GHz TDP: 65W / 117W
ใครกำลังมองหา CPU ราคาประหยัดแต่คุณภาพดีที่คุ้มค่ามากในกลุ่มนี้ Core i5-12400F เป็นทางเลือกที่ดีและมีความแรงกว่า Ryzen 5 5600 ทั้งในการเล่นเกมและงานโปรดักชัน จุดเด่นอยู่ที่รองรับเทคโนโลยีใหม่ เช่น PCIe 5.0 และ RAM แบบ DDR5 นอกเหนือจาก DDR4 ซึ่งทำให้เป็นตัวเลือกที่ยืดหยุ่นกว่า Ryzen รุ่นใกล้กันที่ยังจำกัดแค่ PCIe 4.0 และ DDR4
CPU มี 6 คอร์ (P-cores) 12 เธรด แต่ไม่มี e-cores เหมือนกับรุ่น 13400F ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า ความเร็วพื้นฐานของชิปอยู่ที่ 2.5 GHz และบูสต์ได้ถึง 4.4 GHz มี L3 cache ขนาด 18MB ใช้พลังงานที่ 65W ในสถานะปกติ และสูงสุดที่ 117W ในการทำงานเต็มกำลัง ชิปนี้สามารถใช้งานกับเมนบอร์ดซ็อกเก็ต 1700 ที่มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งในซีรีส์ 600 และ 700 โดยเมนบอร์ดซีรีส์ B จะเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับกลุ่มผู้ใช้ทั่วไปที่มองหา CPU ราคาประหยัด
เหตุผลที่ควรซื้อ
- รองรับ DDR4
- รองรับ PCIe 5.0
- Single Thread มีประสิทธิภาพสูง
- ระบายความร้อนดี
เหตุผลเหตุผลที่ควรคิดก่อนซื้อ
- ไม่มีการโอเวอร์คล็อกคอร์ CPU
- การโอเวอร์คล็อกหน่วยความจำมีจำกัด
เว็บที่วางจำหน่าย : JIB , Banana , Advice
AMD Ryzen 5 8600G

สถาปัตยกรรม: Zen 5 Socket: AM5 Cores/Threads: 16/32 Base Frequency: 4.3 GHz Top Boost Frequency: 5.7 GHz TDP: 170W
Ryzen 7 8700G เป็น APU เรือธงของ AMD ที่ให้ประสิทธิภาพกราฟิกแบบออนบอร์ดที่แรงที่สุดในตลาด สามารถเล่นเกมที่ความละเอียด 1080p ได้โดยไม่ต้องพึ่งการ์ดจอแยก แม้จะต้องลดรายละเอียดภาพลงบ้างด้วยราคาการ์ดจอที่แพงมากในปัจจุบัน กลายเป็นว่า CPU รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่คุ้มราคาสำหรับเกมเมอร์สายประหยัดที่ไม่ใช้การ์ดจอแยก
แน่นอนว่าผู้ใช้จะต้องยอมรับคุณภาพกราฟิกที่ไม่ดีมากและต้องเลือกเล่นเกมที่เหมาะกับสเปก แต่ชิปนี้มาพร้อมกับชุดฟีเจอร์ Hyper-RX จาก AMD ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น Radeon Super Resolution (RSR), AMD Fluid Motion Frames (AFMF), Anti-Lag+, และ Radeon Boost ฟีเจอร์เหล่านี้ซึ่งเพิ่งมีให้ใช้งานใน iGPU รุ่นใหม่ของ AMD ช่วยให้เล่นเกมได้ลื่นไหลยิ่งขึ้น
Ryzen 5 8600G ใช้สถาปัตยกรรม Zen 4 และ GPU แบบ RDNA 3 ที่มี 8 CUs โดยสามารถใช้งานกับแพลตฟอร์ม AM5 ซึ่งมีเมนบอร์ดราคาย่อมเยาอย่าง B650 และ A620 แต่ต้องใช้แรมแบบ DDR5 เท่านั้น ซึ่งอาจเพิ่มต้นทุนนิดหน่อย ดังนั้นต้องคิดดีๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ สำหรับคนที่มีงบจำกัด Ryzen 5 5600G ยังเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ
เหตุผลที่ควรซื้อ
- รองรับ Hyper-RX
- แถมชุดคูลเลอร์
- เล่นเกม Full HD ได้สบายๆ
- ระบายความร้อนดี
เหตุผลเหตุผลที่ควรคิดก่อนซื้อ
- เมนบอร์ด AM5 ยังคงมีราคาแพง
เว็บที่วางจำหน่าย : JIB , Banana , Advice
Intel Core i7-14700K

สถาปัตยกรรม: Raptor Lake Refresh Socket: LGA 1700 Cores/Threads: 20 (8P+12E) / 28 Base Frequency: 3.4 GHz Top Boost Frequency: 5.6 GHz TDP: 125W
Intel Core i7-14700K เป็นรุ่นอัปเกรดจากเจนก่อนโดยเพิ่ม e-cores อีก 4 คอร์ และปรับบูสต์คลอกให้สูงขึ้นโดยไม่เพิ่มราคา ชิปนี้ให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมใกล้เคียงกับรุ่นเรือธง Core i9-14900K ที่แพงกว่ามากทำให้เป็นตัวเลือกคุ้มราคาสำหรับเกมเมอร์
หากคุณเป็นคนใช้งานที่ไม่ได้เน้นโปรดักชันหนักๆ การเลือก Core i7 แทน Core i9 จะช่วยประหยัดเงินไปได้เยอะ เพราะ Core i7-14700K ให้ประสิทธิภาพถึง 97% ของ Core i9-14900K และยังสามารถโอเวอร์คล็อกเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพเทียบเท่า Core i9 ได้อีกด้วย ในแง่ของการทำงาน CPU ดูดีกว่าคู่แข่งจาก AMD ในด้านมัลติเธรด ด้วยจำนวนคอร์ทั้งหมด 20 คอร์ (8 P-core + 12 E-core) รวม 28 เธรด และแคช L3/L2 รวมกันกว่า 61MB
ยังรองรับเทคโนโลยีล่าสุด ทั้ง RAM DDR4-3200 และ DDR5-5600 พร้อม PCIe 5.0 จำนวน 16 เลน และ PCIe 4.0 อีก 4 เลนสำหรับ SSD โดยมีค่า PBP 125W และ MTP สูงสุด 253W ใช้กับเมนบอร์ดซีรีส์ 600 หรือ 700 ซึ่งรองรับทั้ง DDR4 และ DDR5 ถึงปัจจุบันราคา DDR4 จะประหยัดงบกว่า แต่ประสิทธิภาพในการเล่นเกมจะลดลงไปประมาณ 5–8% แต่ปัจจุบันควรเลือกใช้ DDR5 เป็นทางเลือกที่ดีกว่า
เหตุผลที่ควรซื้อ
- ราคาดี
- PCIe 5.0
- แรมเป็น DDR5
- Single และ Multi-threaded มีประสิทธิภาพ
เหตุผลเหตุผลที่ควรคิดก่อนซื้อ
- ไม่มีชุดคูลเลอร์แถมมา
- กินไฟ
เว็บที่วางจำหน่าย : JIB , Banana , Advice
Intel Core i9-14900K

สถาปัตยกรรม: Raptor Lake Refresh Socket: LGA 1700 Cores/Threads: 16 (8P+16E) / 32 Base Frequency: 3.2 GHz Top Boost Frequency: 6.0 GHz TDP: 125W
Core i9-14900K ซึ่งเป็นรุ่นเรือธงจากเจนก่อน ปัจจุบันลดราคาลงมาค่อนข้างเยอะแล้ว เนื่องจากมีรุ่นใหม่อย่าง Core Ultra 9 285K เปิดตัวเข้ามาแทนที่ แต่หลังจากการทดสอบกลับพบว่าการทำงานโดยรวมในการเล่นเกมกลับต่ำกว่ารุ่นก่อน 14900K สะงั้น แม้ Intel วางแผนออกแพตช์แก้ไขในช่วงปลายปี 2024 แต่ปัจจุบันสถานการณ์ก็ยังเงียบและไม่ชัดเจน สำหรับตอนนี้ 14900K ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าในการเล่นเกม
CPU รุ่นนี้มาพร้อม 8 P-core ที่รองรับ hyper-threading และ 16 E-core รวมเป็น 32 เธรด P-core มีความเร็วพื้นฐาน 3.2 GHz และบูสต์ได้สูงสุดถึง 6.0 GHz ผ่าน Turbo Boost Max 3.0 ส่วน E-core ทำงานที่ 2.4 GHz และบูสต์ได้ถึง 4.4 GHz มีแคช L3 ขนาด 36MB และ L2 ขนาด 32MB รองรับ RAM DDR4-3200 และ DDR5-5600 พร้อม PCIe 5.0 จำนวน 16 เลน และ PCIe 4.0 อีก 4 เลนสำหรับ SSD การใช้งานต้องใช้เมนบอร์ดซีรีส์ 600 หรือ 700 และซื้อชุดระบายความร้อนเพิ่มเติมก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้
รุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับเกมเมอร์ที่มีงบจำกัดและอยากได้ประสิทธิภาพสำหรับการเล่นเกมในราคาที่เหมาะสม ถึงแม้จะเป็นเจนเก่าแต่ก็ยังคงดีอยู่ในปี 2025 ยิ่งคุณใช้คอมพิวเตอร์เครื่องเดียวในการ Streaming หรือบันทึกหน้าจอก็จะแสดงประสิทธิภาพออกมาได้ดีเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในราคาเดียวกัน
หตุผลที่ควรซื้อ
- มอบประสบการณ์ในแง่การเล่นเกมที่เสถียร
- สามารถโอเวอร์คล็อกได้เยอะ
- DDR5 และ PCIe 5.0
- Single และ Multi-threaded มีประสิทธิภาพ
เหตุผลเหตุผลที่ควรคิดก่อนซื้อ
- ไม่มีชุดคูลเลอร์แถมมา
- กินไฟ
- และต้องใช้คูลเลอร์ที่ดีเพื่อทำให้โอเวอร์คล็อกได้ดีขึ้น