This War Of Mine อีกหนึ่งเกมแนว Survival ผลงานของสตูดิโอ 11 bit ที่ได้สร้างความประทับใจไม่รู้ลืมในช่วงปีที่ผ่านมา ผู้เล่นจะรับบทเป็นพลเรือนกลุ่มผู้รอดชีวิตในเมืองที่ถูกปิดล้อม ขาดแคลนอาหาร ยารักษา และเผชิญหน้ากับภัยอันตรายในรูปแบบต่างๆ ระบบเกมมอบประสบการณ์ในมุมมองที่คุณจะได้สัมผัสเหมือนกำลังอยู่ในสงครามจริงๆ การตัดสินใจจะดีหรือไม่ ทุกเสี้ยววินาทีล้วนกำหนดชะตาชีวิตและความตาย มีเพียงหนทางเดียว คือ การอยู่รอดและก้าวข้ามสงครามอันโหดร้ายไปให้ได้
เมื่อเริ่มเล่นครั้งแรกอาจจะดูเหมือนง่าย แต่จริงๆ แล้วไม่ง่ายอย่างที่คิด แม้จะมีกลุ่มผู้รอดชีวิตทั้งหมด 3 คน ให้เราควบคุม เพื่อแบ่งภาระหน้าที่ในสถานที่ที่ใช้หลบภัยท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ถูกทำลายจากสงครามการสู้รบ ผู้เล่นมักเดินเข้าไปหาภัยอันตรายอยู่เสมออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อาหาร น้ำ ยารักษา หรือที่หลับนอนล้วนมีความสำคัญมากกว่าอาวุธใดๆ ทุกชนิด ความซับซ้อนในการใช้ชีวิตที่ยากลำบากมากขึ้นเป็นสิ่งที่ผู้เล่นต้องพยายามทำให้เป็นเรื่องปกติท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่รุนแรง แต่จะทำได้จริงหรือ?
This War of Mine แบ่งช่วงเวลาออกเป็น 2 เหตุการณ์เหมือนโลกแห่งความจริงระหว่างกลางวันและกลางคืน ช่วงเวลากลางวันเหมือนใช้ชีวิตปกติทั่วไปหากเล่นครั้งแรกเราต้องทำความความสะอาดสถานะที่หลบภัยก่อน อัพเกรดสถานที่หลบภัยเช่นกาซ่อมผนังบ้านให้มีความปลอดภัยมากขึ้น ระบบ Crafting พื้นฐานที่มีความจำเป็นอย่างมากในการอยู่รอดไม่ว่าจะเป็นการสร้างข้าวของเครื่องใช้ อาทิเช่น เครื่องกลั่นน้ำฝน ที่ทำอาหาร หรือเครื่องไม้เครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการขุดเคลียรพื้นที่หรืองัดประตูบ้านคนอื่น
เมื่อตกเวลากลางคืนกลุ่มผู้รอดชีวิตจะแบ่งหน้าที่กันอีกครั้ง หากยังเหลือรอดอยู่ครบทั้ง 3 คน หน้าที่หลักของแต่ละคนจะปรับเปลี่ยนกันไปในทุกๆวัน ยกตัวอย่างเช่น คนหนึ่งออกไปหาข้าวของเครื่องใช้ ส่วนอีกสองคนประจำอยู่ที่พักอาจจะทำหน้าที่เฝ้ายามหรือนอนหลับพักผ่อน ส่วนใหญ่คนที่เป็น Scavenge ออกไปหาของจะเสี่ยงอันตรามากที่สุด หากเลือกสถานที่ที่อันตรายมักจะเกิดการปะทะกับ NPC หรือไม่ก็ใจดีหน่อยจะยืนข้อเสนอให้เราแลกเปลี่ยนสิ่งของระหว่างกัน แต่การตัดสินใจทั้งหมดล้วนขึ้นอยู่กับผู้เล่นเองว่าจะเลือกสิ่งดีหรือไม่ดีเพื่อการอยู่รอด
ซึ่งคนที่รับหน้าที่เป็น Scavenge บางครั้งจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ตัดสินใจลำบาก หากเลือกสถานที่ที่มีข้าวของเครื่องใช้ให้เก็บรวบรวมจำนวนมาก แต่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับ NPC ที่ประจำอยู่ในสถานที่นั้นๆ บางครั้งเมื่อหมดหนทางเราอาจจะต้องต่อสู้แย่งชิงจนทำให้ตัวเองรู้สึกผิด ถ้ามองเรื่องระบบเกมช่วงเวลากลางคืนจะสนุกมากที่สุดไม่น่าเบื่อเหมือนช่วงเวลากลางวันอย่างเดียวที่ทำได้ คือ การคราฟอัพเกรดหรือไอเทม บางครั้งแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลยแค่นั่งเฝ้าหน้าจอรอเวลาไปเรื่อยๆ
ถ้าถามว่าจะเล่นอย่างไรให้ชนะ และอยู่รอดไปจนถึงวันหยุดยิงเมื่อสงครามสิ้นสุด แต่คงจะเป็นเรื่องยากเพราะผู้เล่นต้องใช้ความอดทนอดกลั้นพอสมควร ในแต่ละวันกลุ่มผู้รอดอยู่ชีวิตต้องประสบพบเจอเหตุการณ์ต่างๆ แบบไม่ซ้ำกัน สถาพจิตใจที่บอบช้ำ ป่วย ได้รับบาดเจ็บ ควมเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ขาดแคลนอาหาร หรือบางครั้งความตายก็พรากมันไป การเล่นเกมนี้จึงทำให้เราถึงกับอินไปกับช่วงเวลาชีวิตเหมือนกำลังอยู่ในสงครามจริงๆ เกิดความสิ้นหวัง ท้อแท้ จนไม่ยากเล่นต่อ
สำหรับคนที่คิดจะเล่นเกม This War Of Mine แล้วหวังเพียงแค่ความสะสนุกหรือผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน คงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก ในมุมมองของผู้เขียนเกมนี้สร้างความประทับใจในแง่ของการนำเสนอชีวิตอีกด้านหนึ่งของคนที่ตกอยู่ในสภาวะสงคราม แต่อาจจะส่งผลกระทบต่อผู้เล่นในด้านอารมณ์ความรู้สึกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มีทั้งกดดัน เศร้าหมอง และสิ้นหวัง นอกจากนี้การตัดสินใจทำอะไรบางอย่างยังสะท้อนตัวตนของผู้เล่นออกมาได้ ถึงแม้จะเป็นแค่เกม แต่มันก็ให้แง่คิดหลายๆ อย่างที่เราอาจจะไม่มีวันลืมก็เป็นได้
ลิงก์ดาวน์โหลด