ตั้งหน้าตั้งตารอคอยกันมานานสำหรับเกมออนไลน์ฟอร์มยักษ์อย่าง Kingdom Under Fire II ที่เปิดทดสอบช่วง Beta ในประเทศไทยไปแล้ว แต่ผ่านมาเกือบ 2 ปีไม่มีวี่แววที่จะเปิดให้บริการ จนในขณะนี้ความคืบหน้าล่าสุดกลับเป็นเซิร์ฟเวอร์อินเตอร์และรัสเซียที่เตรียมเปิดให้บริการในปี 2017 ซึ่งตัวเกมยังคงได้รับความสนใจอยู่เรื่อยๆ เพราะเป็นการพัฒของสตูดิโอ Blueside ร่วมกับ Phantagram เจ้าของผลงานที่พัฒนาจากซีรีย์เกมคอนโซลในอดีตอย่าง Kingdom Under Fire สู่โลกเกมออนไลน์
Kingdom Under Fire II เป็นเกมแนว MMORPG แฟนตาซีเหนือจินตนาการ เริ่มต้นเนื้อหาของเกมจะพาเราเข้าสู่สงครามระหว่าง 3 ฝ่ายขนาดใหญ่ ได้แก่ Human Alliance, Dark Legion และ Encablossians ประกอบไปด้วยเผ่ามนุษย์ คนแคระ เอลฟ์ ออร์ค ก็อปลิน โทรล และปีศาจ อารมณ์เหมือนอยู่ในภาพยนตร์ The Lord of The Ring รูปแบบการควบคุมใช้แนวมุมมองบุคคลที่ 3 เราจะเห็นตัวละครตัวเองแบบเต็มๆ ผ่านการต่อสู้แบบ Action Non-Traget ไม่กำหนดเป้าหมายเดินหน้าฟันแหลก
ซึ่งรูปแบบการต่อสู้ยังเพิ่มลูกเล่นให้สามารถป้องกันหรือหลบหลีกการถูกโจมตีจากศัตรูผ่านการควบคุมของเราเองได้อย่างอิสระ แต่การโจมตีใส่เป้าหมายส่วนใหญ่ยังคงเน้นใช้สกิลเป็นหลักรัวนิ้วกันอีกเช่นเคย ความพิเศษของการใช้สกิลต่อสู้ในเกม Kingdom Under Fire II จะเป็นการคอบโบระหว่างสกิล + การกดโจมตีปกติ ทั้งนี้ทักษะสกิลจะแสดงผลแตกต่างกันขึ้นอยู่กับการกดใช้ของผู้เล่นเอง ซึ่งสกิลเกือบทุกชนิดจะสร้างความเสียหายแก่เป้าหมายเป็นวงกว้าง
สำหรับตัวละครนั้นในขณะนี้มีให้เราเลือกสวมบทเพียงแค่ 3 ตัวละครแบบล็อคเพศ ได้แก่ Berserker, Gunslinger และ Spellsword คุณสามารถปรับแต่งตัวละครผ่านองค์ประกอบที่กำหนดได้อย่างละเอียด และหลากหลายจากหัวจรดเท้า ในหน้าโปรไฟล์ของตัวละครจะประกอบไปด้วยค่าสเตตัสพื้นฐานจะปรับเปลี่ยนเองอัตโนมัติเมื่อถึงระดับเลเวลนั้นๆ อุปกรณ์สวมใส่จะแบ่งออกเป็น 2 แบบ อุปกรณ์สวมใส่ทั่วไปที่หาได้จากในเกม และอุปกรณ์สวมใส่แบบชุดเซตเพิ่มความหรูหราสามารถหาซื้อได้จากร้านไอเทมมอลล์และได้รับจากเควสบางชนิด
แม้จะเป็นเกมฟอร์มยักษ์ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ระบบเควสยังคงเป็นหัวใจหลักของเกม เพื่อให้เราเรียนรู้เรื่องราวความเป็นมา พื้นฐานการเล่น บางครั้งก็จะมีฉากคัทซีนให้ชมเป็นระยะ สำหรับของรางวัลที่ได้จากเควสส่วนใหญ่จะเป็นค่าประสบการณ์ ไอเทมต่างๆ แต่การทำเควสใช่ว่าจะง่ายอย่างที่คิดเพราะมันไม่เหมือนเกมออนไลน์ทั่วไปเพียงคลิกที่ชื่อเควสแล้วตัวละครจะวิ่งไปหาเป้าหมายอัตโนมัติ แต่ในเกม Kingdom Under Fire II ผู้เล่นสามารถคลิกที่เควสเพื่อค้นหาพิกัดของเควสเหล่านั้นแล้วควบคุมตัวละครไปเอง บางเควสต้องวิ่งหามอนสเตอร์บางชนิดอยู่นาน 3 – 5นาที
จุดเด่นและความยิ่งใหญ่ของเกม Kingdom Under Fire II อยู่ที่ระบบ Troops หรือระบบทหาร ตัวละครของเราจะมีกองทหารส่วนตัวเป็นของตนเอง ความสำคัญของระบบทหาร โดยหลักๆ จะเป็นกำลังสนับสนุนในการเคลียร์ดันเจี้ยนต่างๆ ด้วยองค์ประกอบการเล่นแบบ RTS หรือการวางแผนรบ คุณจะสามารถควบคุมตัวละครหรือฮีโร่ของตนเองพร้อมบัญชาการเหล่าทหารในกองทัพเข้าต่อสู้กับกองทัพศัตรูนับพัน ยิ่งการลงดันเจี้ยนในระดับเลเวลสูงเรายิ่งต้องพึ่งกองกำลังทหารมากขึ้น
ส่งผลให้ระบบทหารยังมีระดับเลเวลและสามารถอัพเกรดพัฒนากองทัพให้แข็งแกร่งขึ้นพร้อมกับทักษะพิเศษที่ช่วยสนับสนุนกองทัพ ซึ่งความผูกพันระหว่างตัวละครหลักและระบบทหารจะต้องไปพร้อมๆกัน กล่าวคือ เมื่อตัวละครมีระดับเลเวลสูงจะสามารถปลดล็อคเพิ่มกองกำลังทหารขยับขยายจำนวนของทหารให้เยอะขึ้นตามไปด้วย
ในส่วนของแผนที่จะแบ่งออกมา 3 ประเภท ได้แก่ เมืองหลัก, พื้นที่ทั่วไป และดันเจี้ยน ความสามารถของมอนสเตอร์ในแต่ละพื้นที่จะแตกต่างกันออกไป ซึ่งพื้นที่ทั่วไปจะมีขนาดค่อนข้างกว้างมอนสเตอร์กระจัดกระจายอยู่เป็นกลุ่ม หากถูกมอนสเตอร์โจมตีหรือไล่ตามจะมีเสียงคอยเตือนบอกเราอยู่เป็นระยะ แต่มีข้อเสียอยู่ที่หากมอนสเตอร์ที่เราโจมตีหลุดออกนอกเขตจะทำให้เลือดของมันกลับมาเต็มใหม่อีกครั้ง ซึ่งค่อนข้างจะปวดหัวหากเจอมอนเตอร์ระดับโหดๆ แตกต่างจากมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนที่เราต่อสู้ได้อย่างอิสระแบบไม่จำกัดพื้นที่จะลากไปรวมกันตรงส่วนไหนของแผนที่ก็ได้
ซึ่งสิ่งสำคัญที่ทำให้เกมนี้ออกมาน่าเล่นจนไม่อยากลุกไปไหนคงอยู่ที่ภาพกราฟฟิกพัฒนาออกมาได้สวยงาม ความเป็นธรรมชาติของสภาพแวดล้อมที่สมจริง แสงเงา กระแสลม รวมไปถึงเสียงเพลงประกอบทำออกมาได้เข้ากับบรรยากาศเสมือนในโลกแห่งความเป็นจริง แต่เกมฟอร์มยักษ์ระดับนี้ก็มีข้อจำกัดที่แปลกอยู่เหมือนกันตรงที่ตัวละครจะไม่สามารถกระโดด วิ่งลัดข้ามภูเขาหรือลงไปว่ายน้ำจะไม่มีให้เห็น เพราะเส้นต่างๆในแผนที่จะถูกกำหนดไว้ให้เราเดินได้หรือไม่ได้ก็สังเกตได้จากการวิ่งชนสิ่งขีดขวางต่างๆ, มอนสเตอร์, NPC และตัวละครของผู้เล่นคนอื่นๆ บางครั้งยืนอยู่เฉยๆ ก็โดนชนจนไหลไปเอง
หากมองโดยรวมแล้ว Kingdom Under Fire II ถือเป็นเกมแนว MMORPG ผสมผสานองค์ประกอบการเล่นแบบ RTS ที่ไม่ค่อยมีให้พบเห็นมากนักในตลาดเกมออนไลน์บ้านเรา ด้วยภาพกราฟฟิกที่สวยงามอลังการ ยิ่งเวลาปล่อยสกิลออกมาแสงสีเอฟเฟคไม่ต้องพูดถึงบวกกับการเล่นที่รวดเร็วและลื่นไหลโดนใจเหล่าเกมเมอร์ฮาร์ดคอร์ตัวจริง อีกทั้งไม่ต้องมานั่งกดแสดงอีโมชั่นให้ยุ่งยากเพียงพิมพ์ออกมาเป็นคำสั่งตัวละครก็จะแสดงท่าทางออกมาทันที นับว่าเป็นเกมคุณภาพอีกเกมหนึ่งในปีนี้ที่นำเข้ามาให้เกมเมอร์ในบ้านเราได้สัมผัสความยิ่งใหญ่แถมเล่นฟรีอีกต่างหาก ใครที่กำลังมองหาเกมแนวบู๊แหลก ฝ่าสมรภูมิรบจากเหล่ากองทัพศัตรูนับพันไม่ควรพลาดเกมนี้อย่างเด็ดขาด