ถ้าพูดถึงเกมออนไลน์แนว Hack ‘n’ Slash จากประเทศเกาหลีที่ถูกจับตามองจนมีกระแสข่าวออกมาเรื่อยๆ ใน 2 – 3 ปีที่ผ่านมา คงหนีไม่พ้นเกม Lost Ark และ Lineage Eternal ถึงแม้ทั้งสองเกมอาจจะพูดได้ว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกมชื่อก้องโลกอย่าง Diablo III ที่ดูละม้ายคล้ายกันทั้งในเรื่ององค์ประกอบต่างๆ มุมมองภาพกราฟฟิก แต่เมื่อเป็นเกมใหม่แกะกล่องย่อมมีคอเกมจำนวนไม่น้อยอยากลองสัมผัสเป็นธรรมดา
ซึ่งการแข่งขันของอุตสหกรรมเกมในประเทศเกาหลีนับวันยิ่งดุเดือดมากขึ้น ผลของการเปิดตัวเกมใหม่ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันย่อมถูกหยิบนำมาเปรียบเทียบจนกลายเป็นคู่แข่งกันไปเสียแล้วต่างฝ่ายต่างชูจุดเด่นและระบบการเล่นที่แปลกใหม่ออกมานำเสนอกันอย่างต่อเนื่อง จากความบังเอิญหรือไม่อย่างไร เมื่อเกม Lost Ark และ Lineage Eternal มีแผนเปิดให้บริการในปี 2017 กลายเป็นศึกชิงบัลลังก์ เกม Hack ‘n’ Slash MMO ในประเทศเกาหลี เกมใดจะทำได้ดีกว่ากัน
Graphics
Lost Ark ★★★★
Lost Ark พัฒนาด้วยเทคโลโลยี Unreal Engine 3 เกมเอนจิ้นชื่อดังที่ได้รับการยอมรับไปแล้วทั่วโลก จึงเป็นที่นิยมในหมู่เกมออนไลน์ Next-Gen แต่เกม Lost Ark แตกต่างออกไปเพราะภาพกราฟฟิกที่ออกแบบมาโดยทีมพัฒนามากฝีมือกลับทำให้เป็นที่สะดุดตา การออกแบบสภาพแวดล้อมอย่างพื้นที่ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าด้วยมุมมองภาพแบบ Isometric ทำให้เกมเพลย์ดูมีความแปลกใหม่ เพียงแต่เทคโนโลยีเกมเอนจิ้น Unreal Engine 3 ไม่รองรับ DirectX12
Lineage Eternal ★★★★
NCsoft ตัดสินใจใช้เกมเอนจิ้นของตัวเองในการพัฒนาเกม Lineage Eternal นั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ทำให้นักพัฒนาสามารถปรับปรุงแก้ไขได้สะดวกมากขึ้น สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ การใส่ลูกเล่น Physics ผลกระทบจากการถูกกระทำโดยผู้เล่นส่งผลให้สภาพแวดล้อมบริเวณรอบๆ เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ Lineage Eternal ยังได้ทำข้อตกลงร่วมกันกับค่าย NVIDIA เพื่อใช้เทคโนโลยี GameWorks เพิ่มการแสดงผลของภาพกราฟฟิกให้มีความสวยงามและสมบูรณ์แบบมากขึ้น
Open-World และ Dungeon
Lost Ark ★★★★
นอกเหนือจากการดำเนินเนื้อเรื่องผ่านระบบ Quests เราสามารถเลือกที่จะรับเควสต์หรือไม่ก็ได้ด้วยลักษณะของแผนที่แบบเปิดโลกกว้างยังทำให้ผู้เล่นพบเจอเหตุการณ์กิจกรรมต่างๆ แบบไม่ซ้ำกันอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีระบบ Hidden Quest หรือเควสต์ที่ซ่อนอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ให้ผู้เล่นทำการปลดล็อคเพื่อค้นหาสมบัติหรือพื้นที่ใหม่ และสามารถพบเจอ Boss ได้ทั้งในแผนที่ปกติ Open-World และ Dungeon แต่มันพิเศษตรงที่ในดันเจี้ยนได้หยิบองค์ประกอบ cinematic เข้ามาช่วยเพิ่มอรรถรสของเกมเพลย์ให้สนุกตื่นตาตื่นใจ
Lineage Eternal ★★★
แผนที่ในเกมส์ Lineage Eternal มีลักษณะคล้ายกับเกม Guild Wars 2 ในพื้นที่ต่างๆ จะเกิดสิ่งที่เรียกว่า Dynamic Events เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาแบบไม่ซ้ำกัน และสามารถพบเจอผู้เล่นคนอื่นๆ ทั้งในการเก็บเวลหรือสู้กับบอส นอกจากนี้ยังสามารถใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมบนแผนที่ได้อีกด้วย ขณะเดียวกัน Dungeons ดูเหมือนจะมีความสำคัญไม่น้อยทั้งเรื่องของ Quest และ Event ที่เกิดขึ้นแบบไม่ซ้ำกัน รวมถึงการนำเสนอองค์ประกอบต่างๆ ในดันเจี้ยนให้ผู้เล่นได้ทราบล่วงหน้าทั้งระดับความยากง่าย มอนสเตอร์ และเส้นทาง
Combat
Lost Ark ★★★★★
เกมเพลย์คล้ายเกม Diablo 3 ใช้การควบคุมแบบ Point and Click มีตัวละครมากถึง 18 อาชีพรวมทั้งอาชีพพื้นฐานไปจนถึงขั้นสูงแตกต่างกัน ผู้เล่นสามารถแสดงฝีมือการคอมโบผ่านระบบ Tripod ของสกิลอย่างต่อเนื่องสร้างความเสียหายแก่เป้าหมายได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้ผลของสกิลที่ปล่อยออกมายังส่งผลต่อสภาพแวดล้อมรอบๆ ได้อย่างสมจริง
Lineage Eternal ★★★★★
สำหรับ Lineage Eternal ถือว่ามีระบบเกมเพลย์ใกล้เคียงเกมส์ Diablo 3 มากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการควบคุมมุมมองแบบ Dynamic ที่เปลี่ยนไปตามความต้องการของผู้เล่นได้อย่างอิสระ นอกจากนี้ยังได้เพิ่มระบบต่อสู้ที่แปลกใหม่เรียกว่า Drag Action ใช้เมาส์ควบคุมการปล่อยสกิลแต่ละครั้งสามารถกำหนดทิศทางให้สอดรับกับมุมมองที่แตกต่างไม่ว่าจะอยู่ในมุมใดก็สามารถแสดงผลของสกิลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จากภาพรวมของทั้งสองเกม Lost Ark และ Lineage Eternal แสดงให้เห็นว่าข้อมูลบางส่วนที่ถูกนำเสนอออกมามีทั้งเหมือนเกม Hack ‘n’ Slash MMO ทั่วไป และฟีเจอร์ต่างๆ ก็คล้ายกันให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเกมเดียวกัน แต่ทีมพัฒนาคนละทีมในด้านงานออกแบบภาพที่โดดเด่นไม่แพ้กัน
ติดตามข่าวอัพเดทเกมส์ Lost Ark ได้ที่ https://goo.gl/KFMyOZ
ติดตามข่าวอัพเดทเกมส์ Lineage Eternal ได้ที่ https://goo.gl/NE3flB