เชื่อว่าผู้เล่นหลายคนน่าจะเอียนเกมส์แนวจีนๆ เป็นอย่างมาก ผมเป็นหนึ่งในนั้น เพราะค่ายเกมส์ในไทยเราส่วนใหญ่ชอบนำเข้าเกมส์จีนกันอยู่บ่อยๆ และเกมส์จีนที่นำเข้ามาก็แทบจะเหมือนกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกราฟฟิกงานออกแบบ, เนื้อเรื่อง, ระบบการเล่น, หรือเสียงเพลงประกอบก็แทบจะไม่ต่างกันเลย เลยทำให้ผมวางเกณฑ์สำหรับเกมส์แนวจีนๆ ไว้สูงอยู่พอสมควรทีเดียว และคิดว่าในช่วง 10 ปีนี้คงไม่มีเกมส์จีนเข้าไทยเกมส์ไหนผ่านเกณฑ์ที่ตั้งไว้ไปได้อย่างแน่นอน จนกระทั่งได้ลองเล่น “Blade & Sword 2” เกมส์จีนกำลังภายในจากค่าย Godlike Games ที่พึ่งเปิด Open Beta ไปเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เกณฑ์ที่เคยตั้งไว้ก็ถูกทำลายลง
เกี่ยวกับตัวเกมส์
เกมส์จีนกำลังภายในที่ดีควรเป็นอย่างไร ? สำหรับผู้เขียน เรื่องแรกสุดที่ตัวเกมส์ควรทำให้ได้ก็คือ “การเคลื่อนไหวของตัวละครที่สมกับการเป็นจอมยุทธ์” ซึ่งนั่นถือเป็นจุดแข็งของเกมส์ Blade & Sword 2 เลยเชียวละ เพราะกระบวนท่าต่างๆ ที่ตัวละครแสดงออกมาล้วนลื่นไหล และเท่ห์จนดูเหมือนเป็นการใช้วิทยายุทธ์จริงๆ บวกกับรูปแบบการเล่นของตัวเกมส์ที่เน้นไปกับการผสมคอบโบสกิลเป็นหลัก มันจึงทำให้รูปแบบการเล่นของเกมส์เกมส์นี้เป็นเกมส์กึ่ง Action หรือจะเรียกรวมๆ ว่า Action MMORPG ก็ยังได้
ทั้งนี้จุดเด่นและถือเป็นจุดแข็งสูงสุดของเกมส์เกมส์นี้เลยก็คือ “ระบบอาชีพ” และ “ระบบสกิล” โดยอาชีพของตัว เกมส์จะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 7 แบบด้วยกันคือ “มือกระบี่” สมดุล คล่องตัว สุดยอดอาชีพที่มีความยืดหยุ่นสูง “นักฆ่า” รวดเร็ว แข็งแกร่ง ยอดเยี่ยมเมื่อปะทะกันแบบหนึ่งต่อหนึ่ง “เทพเซียน” งดงาม ยิ่งใหญ่ อันตราย “นักสู้” รุกรับยอดเยี่ยม โดดเด่นด้านจังหวะการต่อคอมโบ “มือทวน” ใกล้ไกลแข็งแกร่ง พลิกแพลงมากอิสระ อาชีพสายสนับสนุนที่ไม่ควรขาด “มือธนู” จอมสังหารระยะไกล ร้ายกาจแม้ไม่ได้เคลื่อนที่ และสุดท้าย “นักดาบ” ดุดัน ต่อเนื่อง จอมทำลาย !!
ทั้งนี้ตัวอาชีพต่างๆ ยังสามารถแบ่งแยกย่อยออกมาได้อีก 2 สาย และแต่ละสายจะมีสกิลและจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป โดยระบบสกิลของเกมส์เกมส์นี้ถือเป็นหัวใจหลักสำคัญของตัวเกมส์เลยก็ว่าได้ เพราะการต่อสู้กับศัตรูเราจะใช้การกดสกิลเป็นหลัก (โจมตีปกติก็เป็นสกิล) ซึ่งสกิลภายในเกมส์จะมีให้เลือกใช้เยอะมากๆ รวมไปถึงระบบหลายๆ อย่าง ยังเน้นไปที่การคอมโบของสกิลเป็นหลัก ทำให้ตัวเกมส์มีตั้งแต่การเซ็ตคอมโบสกิล การควบคุมแบบต่อเนื่อง และช่องสกิลที่หลากหลายคอยอำนวยความสะดวกผู้เล่นอยู่ไม่ขาด นอกจากนี้การอัพเดทสกิลจะใช้การอัพตามเคล็ดวิชาเป็นหลัก ซึ่งในแต่ละเคล็ดวิชาจะมีโบนัสสเตตัสที่โดดเด่นไม่เหมือนกันอีกด้วย
สำหรับระบบสกิลยังไม่เหมดแค่นั้น เพราะเมื่อเราเลเวล 26 เรายังสามารถรับเควสปลดล็อค “อาวุธรอง” อาวุธพิเศษที่จะทำให้ตัวละครสร้างรูปแบบการเล่นได้แตกต่างมากขึ้นกว่าเดิมตามสกิลที่ได้มาจากอาวุธรองชิ้นนั้นๆ นอกจากนี้ตัวเกมส์ยังมีระบบที่น่าสนใจอีกหลายๆ อย่าง แต่ที่โดดเด่นที่สุดก็คือกลุ่มระบบที่เกี่ยวกับการต่อสู้ของผู้เล่น ซึ่งตัวเกมส์เน้นพัฒนาออกมาเป็นหลัก โดยจะประกอบไปด้วย “ประลองยุทธ” ระบบ PVP 1Vs1 ที่ผู้เล่นมีเวลาเพียง 3 นาทีเท่านั้นในการจัดการฝ่ายตรงข้าม โดยผู้ชนะจะได้รับของรางวัลอีกด้วย “กลียุค” ระบบ PK ที่ผู้เล่นสามารถสังหารฝ่ายเดียวกันได้ ซึ่งผู้ฆ่าจะมีบทลงโทษเล็กน้อยถึงหนักมาก จนบางครั้งอาจติดคุกได้เลยเชียวละ “ฝ่าย” หากใครจำได้ ในตอนที่สร้างตัวละคร ระบบจะให้เราได้เลือกฝ่าย 2 ฝ่ายคือหมาป่าโลภ และ ทหารพ่าย ซึ่งผู้เล่นแต่ละฝ่ายจะถือว่าเป็นศัตรูกัน เพราะฉะนั้นหากใครพบฝ่ายตรงข้าม สามารถ PK ได้โดยไม่มีความผิดใดๆ
แม้ไม่ใช่เกมส์ที่แปลกใหม่ แต่ก็เป็นเกมส์ที่มีเอกลักษณ์และสนุก!!
สำหรับตัวผู้เขียน Blade & Sword 2 มีจุดด้อยเล็กน้อยอยู่ที่ระบบตัวเกมส์หลัก ซึ่งจะเป็นเกมส์ที่เน้นวิ่งเควสเหมือนกับเกมส์ MMORPG ทั่วๆ ไป ทำให้ใครก็ตามที่เบื่อเกมส์แนวนี้อาจส่ายหน้าได้ทันที แต่ถ้าใครหากสามารถผ่านจุดด้อยตรงนี้ไปได้ คุณจะได้พบกับเกมส์กำลังภายในที่ยอดเยี่ยม มีการเคลื่อนไหวอันเป็นเอกลักษณ์ มากอิสระ และโดดเด่นด้านสกิลที่หลากหลาย อีกทั้งยังตอบสนองสำหรับผู้เล่นที่รักการ PK หรือ PVP เป็นหลักอีกด้วย ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ผู้เขียนอยากให้เพื่อนๆ ลองเล่นตัวเกมส์จนได้อาวุธรองเสียก่อน แล้วค่อยมาตัดสินใจว่าจะเล่นต่อหรือจะเลิกก็ไม่เสียหาย หากเพื่อนๆ สนใจเข้าไปดูข้อมูลตัวเกมส์เพิ่มเติมได้ที่นี่ Facebook Blade & Sword 2 หรือ เว็บไซต์ Blade & Sword 2