หลาย ๆ คนน่าจะเคยเห็นผ่าน ๆ ตากันมาบ้างผ่านโฆษณาบน Platform ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Youtube ,Instragram หรือ Platform ยอดนิยมของพี่น้องชาวไทยอย่าง Facebook กับ The Sandbox 1 ใน Game-Fi ยุคบุกเบิกที่มาแรงในทุก Chart การจัดอันดับไม่ว่าจะเป็นราคาของเหรียญ SAND ที่มีอัตราการเติบโตสูงมาก ๆ หรือแม้แต่ในหมู่ Gamer ก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก ๆ เช่นกัน วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ The Sandbox ให้มากขึ้นว่าทำไมเหล่า Gamer รวมไปถึงนักลงทุนถึงให้ความสนใจในโปรเจกต์นี้การอย่างมากมาย
Sandbox เป็นเกมแนว Virtual World ที่มีกราฟฟิคคล้าย ๆ กับเกมชื่อดังอย่าง Minecraft ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจมาก ๆ ใน The Sandbox คือการให้อิสระอย่างเต็มที่แก่ผู้เล่นในที่ดินของตัวเองไม่ว่าจะเป็นการสร้างสิ่งปลูกสร้างใหม่ ๆ การสร้างสรรค์เกมของตัวเองขึ้นมาซึ่งสามารถใช้เครื่องมือของทาง The Sandbox ได้เลยไม่จำเป็นต้องเขียนโปรแกรมขึ้นมาใหม่ซึ่งจุดนี้เองเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดให้ผู้เล่นและนักลงทุนจำนวนมากมาร่วมเล่นร่วมลงทุนกับตัวเกมเอง
การได้รับผลตอบแทนใน The Sandbox อาจจะแตกต่างกับ Game-Fi อื่น ๆ ที่เราเคยได้สัมผัสมาสักหน่อยโดย The Sandbox ก็มีวิธีการ Earn อยู่ 4 วิธีหลัก ๆ ก็คือ การซื้อ-ขายที่ดิน ,การสร้าง Asset (สิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ) ,การสร้างเกมและเก็บเงินจากค่าเข้าและสุดท้ายคือการไปเล่นเกมของผู้อื่นแล้วได้รับผลคอบแทนตามที่ผู้สร้างได้กำหนดไว้
Land (ที่ดิน) คือหัวใจหลักของ The Sandbox เลยก็ว่าได้เพราะตัวเกมจะปลดล็อคทุก Content ก็ต่อเมื่อเราครอบครองที่ดินเท่านั้น โดยที่ดินมีจำกัดเพียงแค่ 166,464 ผืนเท่านั้นไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งหากผู้เล่นครอบครองที่ดินก็จะเปลี่ยนสถานะจาก Player เป็น Creator และสามารถเข้าถึง Content ทั้งหมดตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น
แต่ถ้าหากเราไม่ได้ครอบครองที่ดินแต่เรามีความสามารถในด้าน Creative แทนการปั้น Asset โดยใช้ Tool ที่ทาง The Sandbox มีมาให้ก็เป็นทางเลือกในการสร้างรายได้ที่น่าสนใจมาก ๆ ซึ่งเราสามารถสร้างได้อย่างอิสระมาก ๆ และราคาที่ได้ก็จะขึ้นอยู่กับรสนิยม ,เรื่องราว ,และความคิดสร้างสรรค์ของเราเอง ซึ่งก็มีหลายคนที่ทำรายได้เกินหลักแสนหลักล้านบาทกันไปแล้ว
นอกเสียจาก Content ที่ตัวเกมจะมอบให้แก่เราแล้ว The Sandbox ยังเรียกได้ว่าเป็นก้าวใหม่ของลงทุนต่าง ๆ ของแบรนด์ต่าง ๆ ในตลาดโลกด้วยไม่ว่าจะเป็น “Adidas” ที่มีการซื้อที่ดินไว้ใน The Sandbox ซึ่งในอนาคตก็อาจจะมีการโปรโมตแบรนด์เป็นสินค้า NFT หรือมีกิจกรรมที่สามารถจัดไปพร้อมกับโลกจริง ที่ไม่ใช่ใน Metaverse ได้ด้วยหรือแม้แต่การ Co-op กับ Rapper ชื่อดังอย่าง “Snoop Dogg” ที่มีการขายที่ดินและสินค้า NFT ที่เป็น Original ของ Snoop Dogg ซึ่งก็เป็นที่น่าสนใจมาก ๆ ที่แบรนด์ดัง ๆ หรือคนดังในโลกจะมีการโปรโมตผ่านตัว Metaverse ออกมาในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้นในอนาคต
The Sandbox เรียกได้ว่าเป็นก้าวสำคัญในการพลิกโฉมโลกการลงทุนและโลกของเกมไปเลยเพราะมีเกมไม่มากนักที่จะให้อิสระแก่ผู้เล่นมากถึงขนาดนี้ รวมไปถึงคงมีไม่กี่เกมที่สามารถนำแบรนด์ใหญ่ ๆ มามีส่วนร่วมในเกมซึ่งมีน้อยเกมมาก ๆ ที่จะสามารถทำได้แบบนี้ The Sandbox จึงเป็นตัวโปรเจกต์ที่น่าจับตามองมาก ๆ ไม่ใช่เพียงในแง่ของเกมหรือ Crytocurrency เท่านั้น แต่รวมไปถึงการทำMarketing ในรูปแบบใหม่ ๆ ที่เราจะได้เห็นกันในอนาคตนี้