การสร้างสรรค์เกมสักหนึ่งเกมปัจจุบันต้องใช้เวลาในการสร้างค่อนข้างนาน ไม่ว่าจะเป็นการคิดเนื้อหาของเกม เนื้อเรื่อง การออกแบบตัวละคร การออกแบบ Gameplay ซึ่งมันค่อนข้างมีขั้นตอนการสร้างที่มาก แต่หัวใจหลักจากมุมมองเกมเมอร์ที่จะเป็นจุดดึงดูดและสำคัญที่สุดก็น่าจะเป็นเนื้อเรื่องและธีมของเกมนั่นเอง ทำให้ผู้พัฒนาเกมหลายๆ เจ้าเลือกหยิบเอา การ์ตูนอนิเมะ มังงะ หรือ ไลท์โนเวลชื่อดัง มาต่อยอดกลายเป็น Anime Games ในรูปแบบต่างๆ สำหรับหลายแพลตฟอร์ม คาดหวังว่าฐานแฟนคลับของแต่ละไอพีจะสามารถสร้างยอดขายให้กับตัวเกมที่สร้างออกมาได้นั่นเอง
ซึ่งแน่นอนว่าการคิดแบบนี้ก็ถือว่าเป็นแผนการตลาดที่น่าใจ ส่วนทางด้านแฟนอนิเมะ ก็ยินดีแล้วชื่นชอบการที่มีเหล่าผู้พัฒนาเกมได้สร้างผลงานของการ์ตูนที่ตัวเองชอบมาในรูปแบบของวิดีโอเกม ในตลาดของการ์ตูนญี่ปุ่น ก็จะมีการ์ตูนในรูปแบบต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น การต่อสู้ การผจญภัย กีฬา หุ่นยนต์ และอื่นๆ อีกเพียบ เลยทำให้กลุ่มเป้าหมายค่อนข้างเยอะ ดังนั้นการที่การ์ตูนตัวเองชื่นชอบมาในรูปแบบจะช่วยเพิ่มความอยากเล่นเป็นเงาตามตัว
แต่เกมเมอร์จะเห็นว่าเกมสไตล์ Anime Games ส่วนใหญ่จะได้รับความสนใจและนิยมมากในช่วงแรกๆ แต่ผ่านไปสักระยะ 70 – 80% จะปิดตัวลงหรือไม่ได้ไปต่อ โดยเฉพาะแพลตฟอร์มมือถือ สาเหตุที่ได้จากการค้นหามาก็จะมีทั้งเรื่อง เนื้อหาที่มีอยู่จำกัด การไม่เคารพต้นฉบับ หรือ ความนิยมของการ์ตูนเรื่องนั้นๆ ได้น้อยลงก็จะมีหลายสาเหตุประมาณนี้ เลยทำให้เราเห็นว่าเกมสไตล์อนิเมะที่พัฒนาส่วนใหญ่จะมีอายุในการเปิดให้บริการน้อยไม่นานก็จะปิดตัวลงค่อนข้างเยอะ
ส่วนทางด้าน 20% ที่เหลือก็คือเกมในแพลตฟอร์มพีซีและคอนโซล ที่เกมจำพวกนี้จะสามารถขายได้เป็นอย่างดีสำหรับแฟนการ์ตูนยิ่งเป็นเรื่องดังๆ ด้วยแล้วบอกเลยว่าขายได้ดีพอสมควร แต่สุดท้ายเนื้อหาต่างๆ ก็ค่อนข้างมีจำกัดเลยทำให้นานๆ ทีจะเห็นผลิตออกมา บางครั้งก็ขึ้นอยู่กับกระแสการ์ตูนเรื่องนั้นจริงๆ ว่ากำลังได้รับความนิยมมากแค่ไหนถ้ามีจำนวนฐานแฟนคลับเยอะก็จะเห็นการสร้างเกมออกมาเรื่อยๆ นั่นเอง
สุดท้ายการพัฒนาเกมที่สร้างสรรค์มาจากอนิเมะก็ต้องยอมรับว่ามีเนื้อหาที่จำกัดไม่ได้มีให้สร้างได้ตลอดเวลา รวมถึงค่าลิขสิทธิ์ที่ค่อนข้างสูงทำให้เป็นการลงทุนที่มีค่าความเสี่ยงพอสมควรเหมือนกัน แต่ก็แลกมากับฐานแฟนที่มากโอกาสสร้างกำไรได้ก็เยอะ ดังนั้นมาดูกันว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรกับตลาดเกมประเภทนี้